วันคืน ไม่ควรให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์

วันคืน ไม่ควรให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์

รตฺโย อโมฆา คจฺฉนฺติ อ่านว่า รัตโย อโมฆา คัจฉันติ

 

อย่าทะเลาะกันเลย ใจแคบ เสียเวลาเปล่า

คุณไม่ขึ้นรถ คุณจะเดินไปทางนั้นคุณลำบากแน่ คุณขึ้นรถดีกว่าไหม แต่รถนี้ไม่ได้ติด “ตราพุทธ” เลยนะ แต่ขับไปเราไปแวะวัดพุทธได้ไหม? ได้!!

แต่ขึ้นอยู่กับว่า เราแวะวัดพุทธแล้ว คุณมีอะไรให้เขาต่างหาก

แต่การชวนเบื้องต้น เช่น วัดท่าไม้ วัดสมาน วัดพระธาตุดอยคำ ฯลฯ (วัดที่มีองค์เทพ เทวดา ฯลฯ) เราสามารถเอาอะไรมาเสริมก็ได้ เช่น คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เอาธรรมะมาเสริม

ถ้าเรามัวแต่ทะเลาะกัน คุณก็ไม่ได้อะไร รถก็มาแวะไม่ได้ คุณก็เสียโอกาสเปล่าๆ มันเสียใจคนขับรถคันนี้ไหม? เพราะเขาอุตส่าห์มาขับรถนำคนมาส่งให้ เขาตั้งใจเอาคนมาส่งที่วัดพุทธ แต่ดันวัดพุทธไม่ให้เข้า เพราะว่าคุณไม่มีตราพุทธ คุณไม่ให้เข้าวัด จบไหมล่ะ เขาอุตส่าห์เหนื่อยพามา ทำไมร่วมมือด้วยกันไม่ดีกว่าเหรอ

ถ้าเราไปทิ้งเขาหมด เขาก็ไปเข้าศาสนาอื่นหมด

“ถ้าต่างคนต่างได้ประโยชน์ จะไม่มีทางสันติสุข แต่ต้องได้ประโยชน์ร่วมกันถึงจะสันติสุข”

ถ้าไม่อย่างนั้นจะฆ่ากัน จะแย่งชิงกัน ถ้าเป็นประโยชน์ร่วมกัน เอื้อ-เกื้อ-กัน คุณมีคุณอยากแบ่ง แล้วทำไมต้องแย่ง ถ้าคุณบอกว่าของใครของมัน ของใครของเขา นี่แหละจะต้องแย่ง แต่ถ้าเอื้อกันเขาได้เยอะเดี๋ยวเขาก็เอื้อให้เราอยู่ดี ต่างคนต่างเอื้อแล้วทำไมต้องแย่งกัน นี่แหละที่มาคำว่า “สันติ”

สิ่งที่ทำให้ไม่สันติเพราะว่าแย่งผลประโยชน์ แต่ถ้าผลประโยชน์เอื้อกัน ไม่ฆ่ากัน ฉะนั้น สิ่งสำคัญก็คือ ผลประโยชน์ต้องเอื้อ-เกื้อ-กัน สิ่งที่ทำให้เราเอื้อ-เกื้อ-กันได้ก็คือ “ใจกว้าง ไม่ใจแคบ”

กลุ่มไม่ยอมเอื้อกัน แล้วจะให้เป็นกลุ่มใหญ่เป็นไปไม่ได้

คุณต้องรู้จักที่มา ที่เป็นอยู่ และที่จะเป็นไป ถ้าเราไม่รู้จักที่มา เราพลาดหมด คุณไม่มีข้อมูลของเขาแล้วอยู่ดีๆ เรามาสร้างข้อมูลเอาเองก็จบ ไม่ถูกต้อง

ยิ่งเข้าใจที่มาชัดเจนยิ่งขึ้น มากเท่าไหร่ คุณก็สามารถเข้าใจถึง ณ ปัจจุบันถึงเป็นเช่นนั้นยิ่งขึ้น

 

^_^ …_/_… ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

 

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต

 

http://www.dhammathai.org/articles/dbview.php?No=1669

 

เพิ่มเพื่อน